วันจันทร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2558

สรุปการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 57 สมาคมลูกจ้างส่วนราชการฯ และบรรยากาศในการประชุม


สรุปการประชุม 7 มี.ค.58 (อย่างไม่เป็นทางการ )

1.การเลื่อนระดับปรับสถานภาพให้ ลปจ.เป็นข้าราชการฯ สมาคมฯ และชมรมฯ นำเสนอหลักการให้ทางกรมบัญชีกลางพิจราณา
       -เปิดโอกาสให้ลปจ.นำอายุราชการและประสบการณ์มาเป็นความรู้ความสามารถทั่วไป
       - เมื่อได้รับการบรรจุแต่งตั้งเป็นข้าราชการแล้วให้โอนอัตราเงินเดือนไปตั้งจ่ายไม่น้อยก่วาที่เคยได้รับ
      - ให้นับอายุราชการต่อเนื่องในระหว่างการปฏิบัติงาน ลปจ.ตามตัวไปด้วย
      - ให้เป็นการสอบเลื่อนระดับปรับสถานภาพ(ไม่จำกัดอายุ) เพื่อขวัญและกำลังใจ ลปจ.การนี้ส่วนราชการได้ทรัพยากรบุคคลเพิ่มโดยไม่เป็นภาระต่อทางงบประมาณ
วิทยากรผู้ร่วมการเสวนามีทั้งเห็นด้วยและมีการให้ข้อสังเกตุ
 2.การให้ ลปจ.ได้รับการคุ้มครองเมื่อเกษียณอายุในหลักการบำนาญ 2494 วิทยากรให้ข้อสังเกตุว่าเป็นไปได้ยากเพราะ พรบ. 2494  นั้นปัจจุบันข้าราชการที่เข้ามาใหม่ก็ไม่ได้เข้าอยู่ใน พ.ร.บ.นี้จะได้สิทธิใน พรบ. บำนาญฯ 2539 สมาคมฯก็ขอให้ทางกรมบัญชีกลางพิจารณาประโยชน์เกื้อกูลในบ้านหลังที่สองของลปจ.ในหลักการบำนาญ 2494 โดยจะกำหนดสิทธิดังกล่าวนี้ไว้ในระเบียบกระทรวงการคลังก็ได้ ความคืบหน้าที่วิทยากรกรมบัญชีกลางแจ้งที่ประชุมฯ
           -เรื่องเงินเพิ่มค่าครองชีพผู้รับบำเหน็จรายเดือนทางกรมได้ดำเนินการเป็นระเบียบปฏิบัติให้แล้วและต่อไปเมื่อมีการปรับเพิ่ม ลปจ.ก็จะได้สิทธินี้พร้อมกัน
           -เรื่องเหตุสูงอายุ ลปจ.มีอายุราชการไม่ครบ 25 ปีได้ดำเนินการแล้วคาดว่าอย่างช้าคงไม่เกินเดือนกันยายนปีนี้จะมีผลบังคับใช้ได้ ส่วนเรื่องที่ ลปจ. สนใจต้องการเรียกร้องมากที่สุดคือค่ารักษาพยาบาลกวิทยากรกรมบัญชีกลางแจ้งว่ากำลังดำเนินการอยู่ครับ ขอสรุปเป็นข้อมูลเบื้องต้นเพื่อทราบเพียงเท่านี้ก่อนครับ นายกสมาคมฯกล่าว.

(นายอรรถพล งามดี )
นายกสมาคมลูกจ้างส่วนราชการแห่งประเทศไทย




 เตรียมตัวขึ้นรถจากที่พักเพื่อเดินทางไปที่ประชุม




                                     
               
                   เข้าพบเพื่อหารือกับท่านผู้ทรงคุณวุฒิที่มาร่วมเสวนาก่อนประชุม พร้อมมอบของฝากเล็กๆน้อยๆ 






พิธีเปิด
ประธานในพิธี พร้อมด้วยผู้ทรงคุณวุฒิ และสมาชิกในที่ประชุม ยืนตรงร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีดังกึกก้องห้องประชุมสุขุมนัยประดิษฐ์ สนง.ก.พ. จ.นนทบุรี
และท่านนายกสมาคมลูกจ้างส่วนราชการแห่งประเทศไทยกล่าวรายงานต่อท่านประธานที่ประชุม

 ประธานที่ประชุมและผู้ทรงคุณวุฒิในวันประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2557 (7มี.ค.2558)ประกอบด้วย

1.นายไว  คงทวี ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานกลาง สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง (ประธานเปิดฯ)
2.นายวิรัตน์  ปัญญาธีระ สรรพากรพื้นที่จังหวัดนนทบุรี (ประธานกล่าวต้อนรับผู้ว่าราชการมอบหมาย
3.นางรัชฎาภรณ์  แก้วสนิท (อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร)
4.ดร.ทองประเสริฐ  จันทรอัมพร (ผู้ทรงคุณวุฒิ)
5.นายเสกสรร  พหลเวชช์ (ผอ.กลุ่มงานกฏหมายและระเบียบด้านเงินเดือนค่าจ้างบำเหน็จบำนาญ)
6.นายโสภณ  พวงคุ้ม (ผอ.กลุ่มงานค่าตอบแทนและสวัสดิการ)
7.ดร.รัษฎา  วิชัยดิษฐ (อุปนายกฝ่ายบริหารสมาคมฯ)
8.นายอรรถพล  งามดี (นายกสมาคมฯ)




























นายธนวัฒน์  ยกศรี 
ประธานชมรมลูกจ้างประจำภาครัฐ
นำเสนอที่ประชุมในวันนี้ ซึ่งมีประเด็นหลักๆ ดังต่อนี้
ข้อที่ 1. อยากขอโอกาสให้ลูกจ้างประจำที่ไปพัฒนาตัวเองจนมีความรู้ ความสามารถ จนมีวุฒิการศึกษาที่สูงขึ้น และที่ยังต้องปฏิบัติราชการอยู่  ได้มีโอกาสเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานในสายงานที่ปฏิบัติ เฉกเช่นชั้นประทวนของ ตำรวจ ทหาร พอไปเรียนเพิ่มเติมจนมีวุฒิการศึกษาที่สูงขึ้นในระดับปริญญา ที่ตรงสายงานที่ปฏิบัติ  ก็มีโอกาสสอบปรับเปลี่ยนเป็นนายตำรวจชั้นสัญญาบัตรได้ และยังมีข้าราชการประเภทอื่นๆที่ได้รับโอกาสเช่นนี้ แต่สำหรับ ลปจ. ไม่เคยได้รับการพิจารณาถึงเรื่องนี้เลย และจะต้องอยู่เป็นลูกจ้างประจำแบบนี้จนเกษียณ แม้จะมีวุฒิการศึกษาระดับไหนก็ตาม  ดังนั้นอยากขอความอนุเคราะห์จากรัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างเช่นสำนักงาน ก.พ.  เพื่อขอให้พิจารณาหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข เพื่อที่จะปรับเปลี่ยนลูกจ้างประจำให้เป็นข้าราชการได้ตามความรู้ความสามารถ และเมื่อปรับเปลี่ยนหรือโอนย้ายตามที่กล่าวข้างต้นแล้ว ก็ขอให้นำอายุราชการ และเงินเดือนหรือค่าจ้างติดตามตัวไปด้วย
ข้อที่ 2.  สำหรับลูกจ้างประจำที่ขาดคุณสมบัติตามข้อที่ 1. ขอให้สำนักงาน ก.พ. พิจารณาการกำหนดระบบตำแหน่งลูกจ้างประจำขึ้นมาใหม่ ให้สามารถปรับปรุงตำแหน่งข้ามหมวดให้เป็นตำแหน่งที่มีชื่อและลักษณะงานเหมือนของข้าราชการที่มีอยู่ใน สำนักงาน ก.พ. เพื่อให้ลูกจ้างประจำได้มีชื่อตำแหน่งเหมือนข้าราชการหรือบุคลากรของรัฐประเภทอื่นๆ หรือให้เหมาะสมกับวุฒิการศึกษาของลูกจ้างประจำที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งที่ผ่านมา ลปจ.เสียสิทธิ์และโอกาสในหลายๆด้าน เช่น
- กรณีที่กระทรวงสาธารณสุขเรียกบรรจุบุคลากรของกระทรวงสาธารณสุขปรับเป็นข้าราชการ ตั้งแต่ปลายปี พ.ศ. 2556 จนถึงตอนนี้กระทรวงสาธารณสุข เรียกบรรจุ ลูกจ้างชั่วคราว พนักงานราชการ พนักงานกระทรวงสาธารณสุข และ ลูกจ้างประจำ เพื่อบรรจุเป็นข้าราชการ และจะเห็นได้ว่าในการเรียกบรรจุของ กระทรวงสาธารณสุข จะมีชื่อ ลูกจ้างประจำรวมอยู่ด้วย  แต่พอไปดูรายละเอียดของชื่อตำแหน่งจริงๆแล้ว ในการเรียกบรรจุทุกๆครั้ง ของกระทรวงสาธารณสุขลึกๆแล้วจะไม่มี ลูกจ้างประจำอยู่เลย  เพราะอะไร เพราะว่าชื่อตำแหน่งลูกจ้างประจำที่ครองอยู่ไม่มีตำแหน่งที่รองรับวุฒิการศึกษาตั้งแต่ระดับ ปวช. อนุปริญญา และ ระดับ ปริญญาเลย เช่นตำแหน่งเจ้าหน้าที่ / เจ้าพนักงานต่างๆ/ นักวิชาการต่างๆ / แม้ ลูกจ้างประจำ จะมีวุฒิระดับไหนก็ตาม เพราะตำแหน่งที่ว่าไม่มีในระบบตำแหน่งลูกจ้างประจำตั้งเกิดลูกจ้างประจำขึ้นมา  แต่ถ้าย้อนกลับไปดูลูกจ้างประจำในขณะนั้นมีวุฒิการศึกษาหรือไม่ ตอบว่ามี  มีตั้งแต่ ป.4 – ปริญญาตรี และปัจจุบันนี้มี ถึงปริญญาเอก  มีเหมือนกับบุคลากรของรัฐประเภทอื่นๆ
          - ในการดำเนินตามนโยบายของรัฐบาลชุดที่ผ่านมา ได้กำหนดให้ข้าราชการผู้ที่มีวุฒิปริญญาตรี ให้ได้รับเงินเดือนขั้นต่ำ จำนวน ๑๕,๐๐๐ บาท เช่น ข้าราชการ, พนักงานมหาวิทยาลัยพนักงานราชการ, พนักงานกระทรวงสาธารณสุขแม้แต่ลูกจ้างชั่วคราว หรือพนักงานจ้างตามภารกิจ  ที่มีวุฒิปริญญา บุคลากรเหล่านี้ได้รับการพิจารณาตามนโยบายดังกล่าว  แต่ลูกจ้างประจำกลับไม่ได้รับการพิจารณา และต้องเสียสิทธินี้ไป ทั้งๆที่ในขณะนั้นลูกจ้างประจำหลายรายก็มีวุฒิการศึกษาในระดับปริญญาตรีอยู่
ข้อที่ 3.  สำหรับลูกจ้างประจำที่ไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ ตามข้อที่ 1. และ ข้อที่ 2. ก็ขอให้ปรับปรุงระเบียบ กฎหมาย และประโยชน์เกื้อกูลของลูกจ้างประจำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน
      3.1  ขอให้พิจารณาปรับปรุงแก้ไขระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยบำเหน็จลูกจ้าง พ.ศ. ๒๕๑๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ให้ลูกจ้างประจำที่เกษียณอายุราชการ ได้รับสวัสดิการและประโยชน์เกื้อกูลให้ใกล้เคียงกับสิทธิของข้าราชการตามพระราชบัญญัติบําเหน็จบํานาญข้าราชการ พ.ศ. ๒๔๙๔ (ยกเว้น) สิทธิในเงินกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เช่น
-  ให้ลูกจ้างประจำได้รับสิทธิ์การรักษาพยาบาลหลังเกษียณอายุราชการ
ให้ได้รับบำเหน็จตกทอด จากเดิม 15 เท่า ให้เป็น 30 เท่า
-  ถ้าลูกจ้างประจำผู้ใดมีอายุครบห้าสิบปีบริบูรณ์แล้ว หรืออายุราชการครบ 10 ปีขึ้น ประสงค์จะลาออกจากราชการ ก็ให้ผู้มี  อำนาจสั่งให้ลาออกจากราชการเพื่อรับบำเหน็จปกติ บำเหน็จรายเดือนเหตุสูงอายุได้  และ
       3.2 ขอให้พิจารณาแก้ไข ปรับเพิ่มเงินเดือน หรือบัญชีค่าจ้าง ของลูกจ้างประจำให้สูงขึ้นอย่างเหมาะสมสอดคล้องตามอายุงานหรือประสบการณ์ หรือตามคุณวุฒิทางการศึกษาที่มี  รวมทั้งให้สอดคล้องกับสภาวะทางเศรษฐกิจและค่าครองชีพในปัจจุบัน
   ซึ่งข้อเรียกร้องที่กล่าวมาข้างต้นนี้ ทางสมาคมฯ และชมรมลูกจ้างประจำภาครัฐ ได้ทำหนังสือนำกราบเรียนต่อท่านนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล และนำเสนอต่อท่านประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติที่อาคารรัฐสภา ตามหนังสือ ที่ กล.ภร./๐๐๒  ลงวันที่วันที่  13 พ.ย. 2557  เรื่อง ขอความอนุเคราะห์ให้พิจารณาปรับปรุงระเบียบ กฎหมาย และประโยชน์เกื้อกูลของลูกจ้างประจำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน   และได้รับหนังสือตอบรับจากสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล ที่ นร 0105.04/50214  ลงวันที่ 12 ธันวาคม 2557 เรื่องขอให้พิจารณาปรับปรุงระเบียบ กฎหมาย และประโยชน์เกื้อกูลของลูกจ้างประจำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ใจความว่า “สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้ประสานงานส่งเรื่องให้กระทรวงการคลัง และสำนักงาน ก.พ. ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบกรณีที่ท่านมีหนังสือกราบเรียนนายกรัฐมนตรีดังกล่าว เพื่อพิจารณาตามอำนาจหน้าที่ โดยขอให้แจ้งผลให้ท่านทราบโดยตรง  พร้อมทั้งได้บันทึกข้อมูลรายละเอียดของเอกสารที่เกี่ยวข้องไว้ในระบบสารสนเทศเรื่องราวร้องทุกข์ไว้ด้วยแล้ว”  แต่จนถึงปัจจุบันนี้ทางชมรมลูกจ้างประจำภาครัฐหรือกลุ่มลูกจ้างฯ เดิม  ยังไม่ได้รับคำตอบจาก สนง.ก.พ. แต่อย่างใด
และต่อมาเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2558 ทางกระผมในฐานะตัวแทนของพี่-น้องลูกจ้างประจำ ได้รับหนังสือจากกระทรวงการคลัง ที่ กค 0203.4/163 ลงวันที่ 7 มกราคม 2558  ใจความว่า
“ตามที่ท่านได้มีหนังสือฉบับลงวันที่ 13 พ.ย. 2557 กราบเรียนนายกรัฐมนตรีขอให้พิจารณาปรับปรุงระเบียบ กฎหมาย และประโยชน์เกื้อกูลของลูกจ้างประจำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน และสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้ส่งเรื่องให้กระทรวงการคลังพิจารณาในส่วนที่เกี่ยวข้องนั้น
กระทรวงการคลังขอเรียนว่า ได้มอบหมายให้กรมบัญชีกลางเพื่อพิจารณาในส่วนที่เกี่ยวข้องและแจ้งผลการพิจารณาให้ท่านทราบต่อไปแล้ว”
และจนถึงตอนนี้ทางชมรมฯก็ยังไม่ได้รับคำตอบจากกรมบัญชีกลางเช่นกัน
  ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เพื่อให้ได้รับการแก้ไขเยียวยาผลกระทบ และความเหลื่อมล้ำที่มีต่อลูกจ้างประจำส่วนราชการทั่วประเทศมาอย่างยาวนาน  เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศชาติบ้านเมืองอย่างเต็มประสิทธิภาพต่อไป  

 จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาและอนุเคราะห์แก้ไขปัญหา  และความเหลื่อมล้ำที่เกิดขึ้นดังกล่าวด้วย จะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง
ขอแสดงความนับถือ
                                                 (นายธนวัฒน์  ยกศรี)

ประธานชมรมลูกจ้างประจำภาครัฐ


















พักรับประทานอาหารกลางวันร่วมกับท่านอดีต ส.ส.รัชฎาภร แก้วสนิท ขณะนี้ท่านเป็นผู้ดำเนินรายการ "ฟ้าวันใหม่"  ทางทีวีดาวเทียม  ท่านมาเป็นผู้ทรงคุณวุฒิในการจัดการประชุมในครั้งนี้
 และพร้อมด้วยท่านพี่ชวลี อดีตเลขาธิการสมาคมฯ 






กรรมการสมาคมลูกจ้างส่วนราชการแห่งประเทศไทยแนะนำตัวให้กับสมาชิกรู้จัก ก่อนแถลงการณ์ดำเนิน
งานและเข้าวาระที่ประชุมสมาคมฯ






ประชุมกรรมการหลังประชุมใหญ่ และรับมติเรื่องจากการนำเสนอของที่ปรึกษาด้านกฎหมายสมาคมฯเรื่อง ให้ช่วยตรวจพิจารณาข้อบังคับเพื่อจะได้แก้ไขให้ถูกต้องสมบูรณ์และเป็นมาตรฐานเดียวกันกับสมาคมอื่นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ในเบื้องต้นที่เสนอในที่ประชุมใหญ่และได้การรับรองแล้ว คือ การแก้ไขคำผิด และวาระในการดำรงตำแหน่ง คือ
เพิ่มเติมข้อความใน ข้อ 22. เป็นดังนี้ คือ "วาระการดำรงตำแหน่งคณะกรรมการครั้งละ 2 ปี และอาจได้รับการเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งในสมัยต่อไปต่อเนื่องกันอีก แต่ไม่เกินสองสมัยติดต่อกัน ในระหว่างที่คณะกรรมการชุดใหม่ยังไม่ได้เข้ารับหน้าที่ ให้คณะกรรมการชุดเดิมบริหารกิจการสมาคมไปพลางก่อน เมื่อคณะกรรมการชุดใหม่ได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนจากทางราชการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้ทำการส่งและรับมอบงานกันระหว่างคณะกรรมการชุดเก่าและคณะกรรมการชุดใหม่ให้เสร็จสิ้นภายใน ๓๐ วัน นับตั้งแต่วันที่คณะกรรมการชุดใหม่ได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนจากทางราชการ."                                                    และจะนัดประชุมกรรมการอีกครั้งในวันที่ 27 มีนาคม 2558 .




.......................................................................................................................................

2 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณชมรมฯ เป็นอย่างสูงครับ ขอให้เดินหน้าต่อไป พวกเรารอคอยท่านครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขอบคุณพวกเรา ลปจ. ทุกท่านด้วยครับ

      ลบ

คำถำม-คำตอบ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีกำรให้ลูกจ้ำงประจำของส่วนรำชกำรได้รับอัตรำค่ำจ้ำงสูงกว่ำอัตรำค่ำจ้ำงขั้นสูง ของตำแหน่งที่ได้รับแต่งตั้งใน...